[Update] Creatrip: เพศทางเลือกและวัฒนธรรมประเทศเกาหลีใต้ | กองทัพเกาหลีใต้ – POLLICELEE

สวัสดีค่ะ Creatrip ศูนย์รวมข้อมูลการท่องเที่ยวเกาหลีที่อัพเดทโดยคนเกาหลีในทุกๆวัน

#เพศทางเลือกในเกาหลี #เกย์เกาหลี #LGBT

#วัฒนธรรมเกาหลี #ความเชื่อเรื่องเพศ #ความแตกต่าง

เกาหลีถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ยังไม่เปิดรับเพศทางเลือกมากนัก แม้ว่าจะมีการเดินขบวนหรือการแสดงออกอย่างสันติของกลุ่มคนเหล่านี้บ่อยครั้งแล้วก็ตาม ทำให้หลายคนเกิดข้อสงสัยว่าเพราะเหตุใดพวกเขาถึงไม่เปิดใจให้กับเพศทางเลือก หรือเพราะคิดว่าไม่มีเพศนี้ในประเทศตน

วันนี้พวกเราจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเพศทางเลือกในเกาหลี ประเทศที่มีการยึดถือวัฒนธรรมแบบเก่าอย่างเหนียวแน่นว่าพวกเขาคิดเห็นอย่างไรกับ “วัฒนธรรมของเพศทางเลือก”?

🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube 

✨Creatrip Instagram
🎈instagram.com/creatrip.thailand

🎈เหตุผลที่ “คิม ฮีชอล” ไม่เคยปฏิเสธข่าวลือเรื่องเกย์

พรบ. คู่ชีวิต

cr: BBC thailand

ไทยถือว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ค่อนข้างเปิดสำหรับเพศทางเลือก เปิดในที่นี้หมายถึงบุคคลเหล่านี้สามารถแสดงออกในสังคมได้อย่างไม่ต้องปิดบัง ซึ่งแตกต่างกับประเทศเกาหลีที่สังคมยังไม่ให้การยอมรับมากนัก จึงไม่สามารถที่จะเปิดเผยตัวตน หรือแสดงออกในที่สาธารณะ โดยเฉพาะที่ทำงานได้

พรบ. คู่ชีวิตถือว่าเป็นอีกเครื่องยืนยันความเท่าเทียมของเพศทางเลือกในไทย เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้สามารถที่จะจดทะเบียนแต่งงานกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แม้ว่าจะไม่ได้สิทธิประโยชน์เท่าเทียมกับการจดทะเบียนสมรสของคู่รักชายหญิงก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นจุดที่ต้นที่สวยงามและน่ายินดีเป็นอย่างมาก

ประเทศเกาหลีใต้นั้นค่อนข้างอ่อนไหวกับประเด็นเรื่องเพศค่ะ  โดยก่อนหน้านี้กองทัพเกาหลีได้มีการจับตัวชายที่ต้องสงสัยว่าเป็นกลุ่มคนรักร่วมเพศและถูกดำเนินการตรวจสอบพร้อมทั้งบังคับให้ระบุตัวตน แม้แต่การล่วงละเมิดทางเพศค่ะ

เป็นเรื่องยากที่เราจะจิตนาการเกี่ยวกับกลุ่มเพศทางเลือกในประเทศเกาหลีใต้ค่ะ เพราะทั้งผู้สมัครเลือกตั้งหลายคนได้ออกมาเปิดเผยว่าเป็นกลุ่มต่อต้านเพศทางเลือก แม้กระทั่งเพื่อนและคนในครอบครัวก็ต่างเกลียดชังกลุ่มคนรักร่วมเพศด้วยเช่นกัน ซึ่งมันเป็นความจริงที่น่าเศร้าของสังคมเกาหลี เพราะกลุ่มคนเพศทางเลือกนั้นไม่สามารถเปิดเผยตัวตนและต้องคอยหลบซ่อนอยู่ในเงามืดค่ะ 😥

 

การเคลื่อนไหวของกลุ่มเพศทางเลือกในเกาหลี

จากครั้งแรกที่มีการจัดงานพาเรดของกลุ่มเพศทางเลือกในปี 2003 นั้นมีคนจำนวนเพียง 2,000 คนเท่านั้นที่เข้าร่วม แต่งานในปี 2019 นั้นมีผู้คนหลายร้อยหลายพันคนที่ออกมาเข้าร่วมงานพาเรดเพื่อสนับสนุนการแต่งงานของคนเพศเดียวกันค่ะ

แล้วในประเทศเกาหลีนั้น? มีคนมากกว่า 500 คนเข้าร่วมงานพาเรดของกลุ่มเพศทางเลือกครั้งแรกที่ถูกจัดขึ้นในโซล(ปี 2000)ค่ะ ก่อนหน้าปี 2014 นั้นการจัดงานพาเรดถูกจำกัดแค่ในบางพื้นที่เท่านั้นอย่างเช่นใน อิแทวอน,ฮเวฮวาและชินชน แต่ในตอนหลังก็ถูกจัดขึ้นที่ City Hall Plaza ในโซลจากการสนับสนุนของนายกเทศมนตรี ปาร์ค วอนซุน และมีผู้เข้าร่วมงานมากถึง 50,000 คนค่ะ

งานพาเรดเมื่อปี 2018@KBS

ประชากรในประเทศเกาหลีใต้มีมากกว่า 51 ล้านคน แต่จำนวนของกลุ่มคนที่ออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกลุ่มเพศทางเลือกมีไม่มากเท่าไหร่นัก หรือเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมส่วนใหญ่? หรือยังคงมีความกังวลที่จะเข้าร่วมงาน? ดูเหมือนว่าสถานการณ์ในสังคมเกาหลีนั้นจะยังเป็นที่น่าอึดอัดสำหรับกลุ่มคนเพศทางเลือก หากใครที่ออกมาพูด จะต้องยอมรับเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นด้วยค่ะ

  

 

ความเชื่อทางศาสนาในประเทศเกาหลี

ในทางทฤษฏีแล้วความเชื่อทางศาสนาในประเทศเกาหลีใต้นั้นมีทั้ง คริสเตียน,โรมันคาทอลิคและความเชื่อทางศาสนาของทางตะวันตก ซึ่งจากการสำรวจนั้นพบว่า 20%ของประชากรทั้งหมดเป็นผู้ที่มีความเชื่อทางศาสนาค่ะ 

เนื่องจากชาวเกาหลีนั้น เป็นกลุ่มคนที่มีแนวคิดเรื่องความเชื่อทางศาสนาที่หนักแน่น และศาสนาก็เป็นอีกหนึ่งหลักที่ใช้ในการดำเนินชีวิตส่วนตัวและครอบครัวค่ะ นอกจากนั้นความเชื่อทางศาสนานั้นได้แทรกซึมเข้าไปถึงกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลและการเมือง ซึ่งนักการเมืองหลายคนก็ได้เปิดเผยอย่างชัดเจนว่าเป็นผู้ต่อต้านกลุ่มรักร่วมเพศ ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพื่อรักษาฐานเสียงและตำแหน่งทางการเมืองค่ะ

 

 

สังคมประเทศเกาหลีใต้ 

สำหรับคนเกาหลีนั้น ประเด็นเรื่องรักร่วมเพศเป็นเรื่องที่อธิบายไม่ได้ พวกเขาเผิกเฉยและปฏิเสธความจริงเกี่ยวกลุ่มคนเพศทางเลือกที่อยู่ในประเทศค่ะ 

ntoday

ในปี 2018 มีการจัดงานพาเรดของกลุ่มเพศทางเลือก ท่ามกลางกระแสต่อต้านและการโจมตีอย่างหนัก อีกทั้งรัฐบาลก็ปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ ซึ่งทั้งหมดก็เป็นเรื่องที่เกือบจะเป็นไม่ได้ที่จะจัดงานขึ้นค่ะ 

งานพาเรดของกลุ่มเพศทางเลือกที่ Seoul Plaza ในเดือนเมษายน 

 

วัฒนธรรมเกาหลี

สังคมเกาหลีใต้นั้นมีกลุ่มคนที่เกลียดชังกลุ่มเพศทางเลือกอยู่มากค่ะ พวกเขาเชื่อว่าเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนสามารถมีความรักและความรักระหว่างหญิง-ชายเป็นสิ่งที่ถูกต้องในการใช้ชีวิต และถึงแม้ว่าในวันใดวันหนึ่งพวกเขาจะค้นพบว่าตัวเองเป็นกลุ่มคนเพศทางเลือก แต่พวกเขาก็ไม่มีความกล้าพอที่จะยอมรับมันค่ะ

ในประเทศเกาหลีนั้น แม้ว่าพวกเขาจะเป็นกลุ่มคนเพศทางเลือก แต่ด้วยวัฒนธรรมทางสังคมที่เชื่อว่าผู้ชายต้องแต่งงานกับผู้หญิงเท่านั้น พวกเขาจำเป็นที่จะต้องบังคับใจตัวเองให้มีปฏิสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามค่ะ ซึ่งมีหลายคู่ที่การแต่งงานเกิดขึ้นเพียงแต่เพราะว่าเขาต้องทำตามกฏระเบียบของสังคมและเพื่อทำตัวให้เป็น”คนปกติ”ในสังคมเท่านั้นค่ะ😥🖤

 

 

คำนิยามของ”ลูกผู้ชาย”

ปัญหาของคำนิยมคำว่า”ลูกผู้ชาย”ในประเทศเกาหลีนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซีเรียสซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์ทางสัมคม และรวมถึงแนวคิดของกฏระเบียบทางสังคมที่ว่า ผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงเท่านั้นค่ะ

ความแข็งแรง,ความเป็นเพศชาย,ความหลงไหลในร่างกายของผู้หญิง,การปฏิบัติต่อผู้หญิงเหมือนเป็นสิ่งของของตัวเองและารกระทำอื่น ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน นอกจากประเด็นเรื่องรักร่วมเพศแล้ว ประเด็นเรื่องการกดขี่ทางเพศ,ความไม่เท่าเทียมทางเพศในประเทศเกาหลีใต้ยังถือเป็นเรื่องที่ต้องจัดการด้วยค่ะ โดยเฉพาะการให้ความเคารพและความเท่าเทียมทางเพศระหว่างหญิงชาย

รวมไปถึงปัญหาความรุนแรง,การแอบดู,การกลั่นแกล้งและการใช้ความรุนแรงในที่ทำงาน,โรงเรียน,เพื่อนร่วมงาน ซึ่งเกิดจากการที่ผู้ชายมีความคิดว่าตัวเองเหนือกว่าด้วยสภาพร่างกาย,พละกำลังจนทำให้ผู้หญิงกลายเป็นเหยื่อค่ะ

 🙌การโดนกดขี่ทางเพศในสถานที่ทำงานของผู้หญิงเกาหลี 

#MeToo @SBS

จากผลการสำรวจพบว่า ผู้ชายเกาหลีมีแนวโน้มในการ “รวมกลุ่ม” ซึ่งกลุ่มเพื่อนสามารถอาบน้ำด้วยกันได้,ใช้ห้องน้ำ อ่างอาบน้ำร่วมกันได้,นอนเตียงเดียวกันได้และใช้ชีวิตร่วมกันได้ค่ะ ซึ่งวัฒนธรรมเหล่านี้ทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะเกิดความสนิทสนมในเพศเดียวกันค่ะ 

ดังนั้นสำหรับผู้ชายส่วนใหญ่แล้ว มักจะคิดว่าผู้ชายคนอื่นเหมือนเงาสะท้อนของตัวเอง ซึ่งพวกเขาจะไม่มีความสงสัยต่อกันและกัน ผลก็คือผู้ชายที่มีรสนิยมทางเพศที่แตกต่าง หรือเกย์ในประเทศเกาหลีใต้นั้นไม่มีความกล้าที่จะเปิดเผยตัวตน เนื่องจากกลัวที่กลุ่มเพื่อนหรือผู้ชายคนอื่นจะทำลายชีวิตของตัวเองค่ะ

นอกจากเรื่องเกี่ยวกับ stereotypesที่เราบอกไปก่อนหน้านี้แล้ว ผู้ชายยังมีความคิดแปลกๆและรังเกียจผู้หญิงต่างชาติมากกว่าผู้หญิงเกาหลีค่ะ 😡🤬 พวกเขาจะทำการ “ล่าแม่มด”กับใครก็ตามที่มีแนวคิดเรื่อง “Feminism” ซึ่งในที่นี้ Feminism คือความคิดแบบสตรีนิยมรวมถึงอำนาจและสิทธิของผู้หญิงด้วยค่ะ ในประเทศที่มีค่านิยมและความไม่เท่าเทียมทางเพศนั้น หัวข้อทางด้านวิชาการและอุดมการณ์เป็นเรื่องง่ายที่จะกำหนดขึ้นค่ะ

ในประเทศเกาหลีใต้นั้น ผู้คนส่วนใหญ่มีความเกลียดชังกับกลุ่มรักร่วมเพศและลึกๆแล้วมีความกลัวต่อความคิดสตรีนิยมหรือ  Feminism ค่ะ ตัวอย่างที่เห็นก็คือ เมื่อ  Irene จากวง Red Velvet บอกว่าเธอนั้นอ่านหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความคิดแบบสตรีนิยม เธอก็ถูกโจมตีจากแฟนคลับที่เป็นผู้ชายจำนวนมาก ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นความคิดของผู้ชายที่มีต่อระบบสตรีนิยมค่ะ

 

โรงเรียน,กองทัพและสถานที่ทำงานในเกาหลี

ในโรงเรียนในประเทศเกาหลีนั้นส่วนใหญ่ไม่ได้มีการสอนเกี่ยวกับเรื่องเพศอย่างสมบูรณ์ จึงทำให้พวกเขาไม่เข้าใจและไม่สามารถยอมรับในความแตกต่างได้ ดังนั้นภาพยนตร์เกี่ยวกับเพศทางเลือกในเกาหลี มักถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นถกเถียงและก่อให้เกิดการกลั่นแกล้งขึ้นในโรงเรียนค่ะ

🙌วัฒนธรรมกับการรับราชการทหารของประเทศเกาหลีใต้ 

ในกองทัพมีการกลั่นแกล้งในระดับที่รุนแรง ที่ประเทศเกาหลีใต้นั้นผู้ชายทุกคนต้องเข้ารับราชการทหารเมื่ออายุถึงเกณฑ์ ซึ่งหลายคนคิดว่าการเป็นทหารคือบททดสอบของลูกผู้ชายที่ต้องผ่านให้ได้ค่ะ ช่วงเวลาในการเป็นทหารนั้นคือ 21 เดือน ซึ่งในช่วงระยะเวลาการฝึกนั้นจะถูกปลูกฝังความคิดเรื่องการเป็นลูกผู้ชายและการให้ความเคารพผู้อาวุธโส ซึ่งภายในกองทัพนั้นก็จะมีปัญหาการกลั่นแกล้ง,การกดขี่ข่มเหง,การละเมิดทางเพศ ซึ่งทั้งหมดก็จะถูกปกปิดและหายไปในที่สุดค่ะ

ในปี 2017 กองทัพเกาหลีใต้ได้ทำการ “ล่าแม่มด” โดยการจับทหารที่ต้องสงสัยว่าเป็นกลุ่มคนรักร่วมเพศ และมีการบีบบังคับให้เปิดเผยทหารคนอื่นที่มีพฤติกรรมเดียวกันด้วยค่ะ   

cn.nytimes.com

ระหว่างการสอบสวนนั้นเขาต้องโดนทั้งการทำร้ายด้วยคำพูด,การทำร้ายร่างกายและการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นก็กลายเป็นแผลเป็นและส่งผลทำให้เขาไม่สามารถใช้ชีวิตแบบปกติได้อีกต่อไปค่ะ 😭

แต่เป็นเรื่องปกติที่เป็นตลกร้ายในชีวิต เพราะในที่ทำงานเพื่อนร่วมงานและพนักงานคนอื่นๆก็มีความคิดและการปฏิบัติแบบเดียวกับในกองทัพค่ะ พวกเขาต้องการลบความคิดแบบสตรีนิยม และยังบอกอีกว่ากลุ่มเพศทางเลือกนั้นมีเฉพาะในประเทศที่ด้อยพัฒนา และไปถึงการอ้างถึงสิทธิมนุษยชนด้วยค่ะ  

 

lgbtpride.tistory.com

ในสถานที่ทำงานในประเทศเกาหลีนั้น คนส่วนใหญ่มักมีประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกัน เป็นเพราะทุกคนได้รับข้อมูลและการสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องเพศในแบบเดียวกัน และพวกเขาก็จะกระทำการข่มขู่,พูดจาดูถูกรวมไปถึงการกลั่นแกล้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นได้เป็นปกติค่ะ 

นอกจากนั้นยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มคนทางสังคมบางกลุ่มสามารถทำลายชีวิตของใครคนใดคนหนึ่งที่แตกต่างและไม่เหมือนพวกเขาได้ค่ะ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรักร่วมเพศนั้น มันเหมือนเป็นการเอาชีวิตรอดจากสังคม และมีโอกาสน้อยที่พวกเขาจะกล้าเปิดเผยตัวตนให้คนอื่นได้รู้ค่ะ

 

พื้นที่สำหรับกลุ่มเพศทางเลือกในเกาหลี

ในประเทศเกาหลีนั้นมีพื้นที่ที่เหล่าเพศทางเลือกสามารถรวมตัวกันได้ ในโซลจะเป็นย่านถนนจงโน 3 กาและย่านอิแทวอน สำหรับในปูซานนั้นจะเป็นย่านบอมมิล(Beomi) ซึ่งถือเป็นเหมือนฐานทัพหลักค่ะ

เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ไม่เฉพาะกลุ่มเพศทางเลือกที่สามารถเข้าถึงได้เท่านั้น ดังนั้นเรื่องของพวกเขายังคงต้องถูกปกปิดเอาไว้ค่ะ ซึ่งมีบางร้านที่ซ่อนตัวอยู่ตามซอกซอยเล็กๆที่ไม่ต้อนรับแขกผู้ญิงหรือแขกที่มาเป็นคู่ชายหญิง และเมื่อเข้าไปที่ร้านจะมีการสอบถามเหมือนเป็นโคดลับเช่น “คุณรู้เกี่ยวกับระบบสมาชิกหรือไม่?”   

 

วัฒนธรรมเพศทางเลือกในเกาหลี

ด้วยวัฒนธรรมและการกดขี่ทางสังคม ดังนั้นดูเหมือนว่าวิธีการแสดงออกจากเพศทางเลือกนั้นจะออกมาในรูปแบบของภาพยนตร์เป็นส่วนใหญ่ค่ะ ซึ่งภาพยนตร์หลายเรื่องได้นำเสนอเรื่องราวของกลุ่มเพศทางเลือกที่ต้องเจอกับความยากลำบากในการใช้ชีวิตในสังคม ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดก็ถูกสร้างโดยอ้างอิงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในสังคมประเทศเกาหลีค่ะ

In Between Seasons

The King and The Clown

A Frozen Flower

Two Weddings and a Funeral

Night Flight

ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับรักร่วมเพศนั้นจะนำเสนอมุมมองและปัญหาที่พวกเขาต้องเจอในสังคม,ความสัมพันธ์,แนวคิดเรื่องเพศตรงข้าม,รูปแบบของมนุษย์ และการใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนและมหาลัยค่ะ

แน่นอนว่าจำนวนของกลุ่มคนเพศทางเลือกที่ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่มีมากกว่าที่เห็น ภาพยนตร์ได้นำเสนอชีวิตจริงของพวกเขาที่ต้องทนกับสภาวะที่อึดอัด เพราะการปลูกฝังทางวัฒนธรรม และสถานะของเพศทางเลือกในประเทศเกาหลีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแสดงออกแม้กระทั่งในโลกของภาพยนตร์ค่ะ 

 

 

กลุ่มเพศทางเลือกในวงการบันเทิงเกาหลี 

นักแสดงฮง ซอกชอน (홍석천) ได้ออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะว่าเขาเป็นเกย์เมื่อปี 2000 ซึ่งส่งผลทำให้เขาถูกแบนจากสถานีโทรทัศน์และส่งผลต่องานการแสดงของเขาถึง 7 ปีเลยค่ะ เพียงเพราะต้องการเปิดเผยความจริงและต้องการเป็นตัวของตัวเองเท่านั้น แต่เขาก็ถูกตัดสินโดยประชาชนบางกลุ่ม ทำให้เค้าถูกแบนจากสังคมและสื่อต่างๆค่ะ

ผู้กำกับภาพยนตร์คิม โจกวางซู (김조광수) เป็นอีกหนึ่งคนที่ออกมาประกาศว่าเขาเป็นเกย์ ในขณะเดียวกันการแต่งงานของเพศเดียวกันถือเป็นสิ่งต้องห้าม ซึ่งคิม โจกวางซูและแฟนหนุ่มของเขาได้สร้างประวัติศาสตร์โดยการเป็นคู่รักเพศเดียวกันที่แต่งงานกันในโซล ซึ่งกลายเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและได้รับความสนใจอย่างมากในเวลานั้นค่ะ

อดีตสมาชิกวง 2NE1 อย่าง CL ได้แสดงความคิดเห็นเพื่อสนับสนุนกฏหมายการแต่งงานของเพศเดียวกันในประเทศไต้หวันบนอินสตาแกรมส่วนตัวของเธอค่ะ ซึ่งก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนชาวเกาหลีใต้ ซึ่งทำให้หลายๆคนกังวลเกี่ยวกับสถานะของเพศทางเลือกและอนาคตของกลุ่มเพศทางเลือกในประเทศเกาหลีใต้ค่ะ

 

 

สถานะในปัจจุบันและอนาคตของเพศทางเลือกในเกาหลี

ในความคิดของคนเกาหลี ความสัมพันธ์ระหว่าง ชายชาย หรือ หญิงหญิงนั้นถูกกำหนดในรูปแบบของความสัมพันธ์แบบเพื่อน ซึ่ง”ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นคู่รักได้” และ “ไม่ได้รับอนุญาต” ให้เปลี่ยนเป็นคู่รักค่ะ 

 

และมันก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจของกลุ่มเพศทางเลือกในประเทศเกาหลี ใครที่เป็นกลุ่มเพศทางเลือกจะไม่ได้รับการยอมรับจากกลุ่มเพื่อน,คนในครอบครัว,โรงเรียนหรือแม้แต่ในกองทัพ รวมไปถึงคนส่วนใหญ่ในที่ทำงานด้วยค่ะ ทำให้หลายคนเลือกที่จะสวมหน้ากากปิดบังตัวตนที่แท้จริงเพื่อการอยู่รอดในสังคม  พวกเขาต้องเผชิญกับปัญหาโรคติดต่อทางเพศ,การรักษาพยาบาลและกลายเป็นเป้าหมายในการล่าแม่มดด้วยค่ะ

การใช้ชีวิตอยู่ในประเทศเกาหลีนั้นเป็นเรื่องยาก ทั้งจากความกดดันทางสังคมและทางด้านจิตใจ กลุ่มเพศทางเลือกส่วนใหญ่กลัวการพูดเกี่ยวกับตัวเอง และเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศเกาหลีนั้นยังถือว่าเป็นเรื่องที่หาได้ยากในประเทศที่พัฒนาแล้วค่ะ

공공뉴스

หลายข้อเรียกร้องยังเหมือนเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเป็นไปได้ เบื้องหลังฉากที่สวยงามที่แสดงออกมานั้น ดูเหมือนว่ากลุ่มเพศทางเลือกในประเทศเกาหลีนั้นยังคงต้องทนกับสถานการณ์ที่อึดอัดนี้ต่อไปและอนาคตที่พวกเขาสามารถมีตัวตนในสังคมได้นั้นก็ดูเหมือนยังอีกไกลแสนไกลค่ะ 

เราว่าทุกคนคือมนุษย์เหมือนกัน ไม่ว่าเขาจะมีรสนิยมทางเพศแบบไหนและสำหรับเราแล้วความรักคือสิ่งสวยงามไม่ว่าจะรักใคร ดังนั้นอยากให้ทุกคนหันมามอบความรักให้กับคนรอบข้างและเปิดใจยอมรับในตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาค่ะ

ครั้งหน้าพวกเราจะมีอะไรมาอัพเดตอีกนั้น ห้ามพลาดค่ะ สำหรับวันนี้ “สวัสดีค่ะ”

🤞🏻Subscribe พวกเรา Creatrip บน Youtube 

✨Creatrip Instagram
🎈instagram.com/creatrip.thailand

🎈เหตุผลที่ “คิม ฮีชอล” ไม่เคยปฏิเสธข่าวลือเรื่องเกย์

ภาพการขึ้นบกของสหประชาชาติที่ฝั่งอินช็อน และภาพผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีหน้ารถถังM26 PERSHING ของสหรัฐอเมริกา (ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Korean_War)

สงครามเกาหลี (Korean War) หนึ่งในสงครามที่เกิดช่วงสงครามเย็น (Cold War) เป็นสงครามระหว่างสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) กับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) เกิดขึ้นวันที่25 มิถุนายน ค.ศ. 1950 – 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1953 มีสาเหตุจากช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียต ได้แบ่งดินแดนเกาหลีที่เคยถูกญี่ปุ่นปกครองเป็น 2 ส่วน ที่เส้นขนาน 38 องศาเหนือ เพื่อคานอำนาจระหว่างกัน โดยฝั่งเกาหลีเหนือปกครองแบบคอมมิวนิสต์ ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียต ส่วนฝั่งเกาหลีใต้ปกครองแบบประชาธิปไตย ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา จากความแตกต่างทางด้านการเมืองและอุดมการณ์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในอนาคต

จุดเริ่มต้นของสงครามมาจากความล้มเหลวในการจัดการเลือกตั้งเสรีทั่วคาบสมุทรเกาหลีในปี ค.ศ. 1948 เนื่องจากสหรัฐอเมริกาไม่เห็นด้วยกับการแบ่งแยกดินแดน จึงเสนอให้รวมเกาหลีทั้ง 2 เป็นประเทศเดียวกัน ซึ่งทางสหภาพโซเวียตเห็นด้วย แต่มีเงื่อนไขว่ารัฐบาลที่จะปกครองเกาหลีต้องเป็นรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นตามเงื่อนไขของสหภาพโซเวียตเท่านั้น สหรัฐอเมริกาจึงนำปัญหานี้เสนอต่อองค์การสหประชาชาติพิจารณาเมื่อกันยายน ค.ศ. 1947 ต่อมาสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติให้เลือกตั้งทั่วไปในเกาหลีและให้อยู่ในความควบคุมของสหประชาชาติ แต่สหภาพโซเวียตปฏิเสธความร่วมมือ ทำให้การเลือกตั้งมีเพียงฝั่งเกาหลีใต้เท่านั้น

วันที่ 15 สิงหาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งชาติเกาหลีประกาศจัดตั้งสาธารณรัฐเกาหลีขึ้นเป็นทางการ มี ซึงมัน รี (Syngman Rhee) ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรก จบการศึกษาจากสหรัฐอเมริกาและต่อต้านคอมมิวนิสต์ ทางด้านสหภาพโซเวียตได้มีการตอบโต้ โดยจัดตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ขึ้นมา มี คิม อิล-ซ็อง (Kim Il-sung) เป็นหัวหน้าคณะรัฐบาล หลังจากมีการก่อตั้งรัฐบาลของทั้ง 2 ฝั่ง ในค.ศ. 1949 สหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียตได้มีการถอนกำลังออกจากประเทศเกาหลี

หลังจากที่ประเทศมหาอำนาจทั้ง 2 ได้ถอนตัวไปแล้ว ซึงมัน รี กับ คิม อิล-ซ็อง มีความต้องการที่จะรวมประเทศเกาหลี จึงส่งทหารปะทะกันเล็กน้อยตามแนวชายแดนระหว่างกันตลอดทั้งปี ค.ศ. 1949 และต้นปี ค.ศ. 1950 จนกระทั่งวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 1950 กองทัพเกาหลีเหนือเคลื่อนผ่านเส้นขนานที่ 38 มายังเกาหลีใต้ พร้อมเปิดฉากโจมตีอย่างรวดเร็ว โดยทางเกาหลีเหนืออ้างว่ากองทัพเกาหลีใต้ของ ซิงมัน รี ได้บุกรุกข้ามชายแดนมาก่อน และซิงมัน รี จะต้องถูกจับกุมตัวและประหารชีวิต

การบุกโจมตีของเกาหลีเหนือได้สร้างความประหลาดใจแก่ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาที่ตื่นตระหนกมากที่สุด เพราะเกาหลีใต้เปรียบเสมือนกำแพงป้องกันอิทธิพลคอมมิวนิสต์จากสหภาพโซเวียตและจีน ถ้าเกาหลีเหนือสามารถยึดเกาหลีใต้ได้จะทำให้สหรัฐอเมริกาสูญเสียจุดยุทธศาสตร์ในคาบสมุทรเกาหลีไป สหรัฐอเมริกาจึงพยายามยุติสงครามให้ไวที่สุด

ประธานาธิบดีแฮร์รี เอส ทรูแมน (Harry S. Truman) ได้สั่งให้ ดีน แอชิสัน (Dean Acheson) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางไปที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติเพื่อขอคำอนุมัติให้นำกำลังทหารสหประชาชาติเข้าทำการแทรกแซงเกาหลีเพื่อช่วยเหลือเกาหลีใต้และดันกองทัพเกาหลีเหนือให้กลับไปที่เส้นขนาน 38 องศาเหนือ

ซึ่งเรื่องดังกล่าวประธานาธิบดีทรูแมน กระทำโดยไม่ได้มีการเสนอให้ที่ประชุมสภาคองเกรส (United States Congress) ร่วมพิจารณาด้วย เนื่องจากประธานาธิบดีทรูแมน ไม่ต้องการให้สภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือ เพราะถ้าสหรัฐอเมริกาประกาศสงครามอย่างเป็นทางการอาจทำให้สหภาพโซเวียต ที่สนับสนุนเกาหลีเหนือประกาศสงครามตามด้วย  ซึ่งจะเพิ่มระดับไปเป็นสงครามครั้งใหญ่ระหว่างชาติมหาอำนาจได้

หลังจากที่ยื่นคำขอแก่สหประชาชาติ คณะรัฐมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติได้ผ่านมติดังกล่าวอย่างเป็นเอกฉันท์ ทั้งที่สหภาพโซเวียตก็เป็นสมาชิกถาวรในสภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่มีสิทธิการยับยั้ง (Veto) มติแผนแก้ปัญหาของสหประชาชาติที่ต่อต้านเกาหลีเหนือ แต่มติสามารถผ่านไปได้นั้นมีสาเหตุจากผู้แทนของสหภาพโซเวียตไม่ได้เข้าประชุม เนื่องจากสหภาพโซเวียตกำลังประท้วงเรื่องที่นั่งของจีน ว่าตัวแทนของประเทศจีนในคณะมนตรีความมั่นคงจะต้องเปลี่ยนจากคนของพรรคก๊กมินตั๋งมาเป็นคนของพรรคคอมมิวนิสต์ เพราะว่าพรรคคอมมิวนิสต์มีชัยชนะบนแผ่นดินใหญ่แล้ว จึงเป็นการไม่เหมาะสมที่คนของพรรคก๊กมินตั๋งจะยังคงดำรงตำแหน่งตัวแทนอยู่ สหภาพโซเวียตจึงไม่เข้าร่วมการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงในช่วงนี้

จากที่สหภาพโซเวียตไม่เข้าร่วมประชุมและมีเพียงยูโกสลาเวียเพียงประเทศเดียวที่งดออกเสียง ทำให้สหประชาชาติลงมติช่วยเหลือเกาหลีใต้อย่างเป็นเอกฉันท์ ในวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 1950 สหรัฐอเมริกาได้รับหน้าที่ปฏิบัติการณ์โดยตรงและมีกำลังเสริมจาก 15 ประเทศ ได้แก่ แคนนาดา,ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, แอฟริกาใต้, ตุรกี, กรีก, เนเธอร์แลนด์, เอธิโอเปีย, โคลัมเบีย, ฟิลิปปินส์, เบลเยี่ยม, ลักแซมเบิร์ก และไทย เข้าร่วมด้วย

จากความล้มเหลวที่จะรวมเกาหลีเป็นประเทศเดียว เนื่องจากความแตกต่างทางระบอบการปกครองและอุดมการณ์ จนนำไปสู่สงครามเกาหลี สหรัฐอเมริกาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งครั้งนี้ จึงต้องเข้ามาแทรกแซงสงคราม โดยได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติอย่างเอกฉันท์เนื่องจากประเทศที่สนับสนุนเกาหลีเหนืออย่างสหภาพโซเวียตไม่ได้เข้าร่วมการประชุม รวมถึงสาธารณรัฐประชาชนคอมมิวนิสต์จีนก็ไม่ได้ถูกยอมรับจากสหประชาชาติ

ช่วยให้สหรัฐอเมริกากับสหประชาชาติเข้าร่วมสงครามครั้งนี้ได้อย่างไม่มีอุปสรรค และในท้ายที่สุดสหรัฐอเมริกากับสหประชาชาติสามารถยุติสงครามเกาหลีได้แม้จะมีการสูญเสียอย่างหนักทั้ง 2 ฝ่ายก็ตาม

หมายเหตุ การรบในสงครามเกาหลีไทยส่งทหารไปรบร่วมกับสหประชาชาติโดยเดินทางออกจากประเทศไทย ด้วยเรือของทัพเรือ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1950 (พ.ศ. 2493) เมื่อสงครามยุติทหารไทยได้เสียชีวิตจำนวนทั้งสิ้น 136 นาย เป็นทหารบก 130 นายทหารเรือ 4 นาย และทหารอากาศ 2 นาย รัฐบาลโดยกองทัพบกได้สร้างอนุสาวรีย์ทหารผ่านศึกสงครามเกาหลีขึ้น ณ ค่ายนวมินทราชินี จังหวัดชลบุรี เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของทหารไทยในสงครามเกาหลี และยึดถือว่าวันที่ 22 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันที่ระลึกสงครามเกาหลีของประเทศไทย

อ้างอิง

ปาร์คแท กยูน ; ภัททิรา จิตต์เกษม (ผู้แปล).  ก.  กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,  2560

ประยุทธ เปี่ยมสุวรรณ์.  .  สืบค้นเมื่อ 12 มิถุนายน  2562, จาก http://www.infantry.geozigzag.com/pdf/I_am_infantry71.pdf

มนันญา ภู่แก้ว.  .  สืบค้นเมื่อ 12 มิถุนายน 2562, จาก เว็บไซต์สถาบันพระปกเกล้า

Lily Rothman.    Access 12 June 2019, from https://time.com/3915803/korean-war-1950-history/

เผยแพร่ครั้งแรกในระบบออนไลน์ เมื่อ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2562